
สรุปสั้น
เช้าวันนี้ราคาน้ำมันรีบาวด์เล็กน้อย โดย Brent ใกล้ 62.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ WTI ใกล้ 58.8 ดอลลาร์ หลังข่าวสหรัฐระบุว่านายกรัฐมนตรีอินเดียให้คำมั่นจะยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แม้รายละเอียดทางการยังต้องติดตาม ขณะที่ภาพใหญ่ยังถูกกดดันจาก รายงาน IEA ที่คาดส่วนเกินอุปทานในปี 2025–2026 และจากสต็อกสหรัฐที่มีแนวโน้มเพิ่ม สวนทางกับ OPEC ที่มองสมดุลใกล้เคียงมากกว่า
ภาพรวมราคา
เมื่อเช้าวันนี้ตามเวลาตลาดเอเชียถึงยุโรป Brent ประมาณ 62.45 ดอลลาร์ และ WTI ประมาณ 58.84 ดอลลาร์ ใกล้ระดับปิดวานนี้ซึ่งแตะจุดต่ำสุดในรอบห้าเดือน ก่อนจะดีดกลับเล็กน้อยตามข่าวฝั่งอินเดีย
ฝั่งซัพพลาย
มุมมอง IEA เดือนตุลาคมชี้ความเสี่ยงส่วนเกินซัพพลายในปี 2025 และ 2026 โดยระบุความไม่สอดคล้องของข้อมูลและน้ำมันที่ไม่ถูกนับในสถิติทางการเป็นปัจจัยเพิ่มความไม่แน่นอนของดุลตลาด
OPEC และ OPEC+ คงมุมมองดีมานด์ปีนี้และปีหน้าใกล้เคียงเดิม แต่ย้ำว่าการผลิตเดือนกันยายนของกลุ่มเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมดุลปี 2026 หดแคบกว่าที่คาดก่อนหน้า สื่อถึงตลาดที่ “ตึงน้อยลง” เมื่อเทียบการประเมินก่อนหน้า
สหรัฐ ปรับคาดการณ์การผลิตเฉลี่ยปี 2025–2026 ราว 13.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ใกล้ระดับสูงสุดประวัติการณ์ ช่วยเพิ่มอุปทานนอก OPEC
อินเดีย–รัสเซีย ข่าวฝั่งสหรัฐระบุอินเดียให้สัญญาจะยุติซื้อน้ำมันรัสเซีย แต่ยังไม่มีการยืนยันจากฝ่ายอินเดีย ผลกระทบจริงต่อกระแสการค้าโลกยังต้องรอดูรายละเอียดและช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่าน
ฝั่งดีมานด์
จีน นำเข้าน้ำมันดิบเดือนกันยายน 47.25 ล้านตัน หรือประมาณ 11.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบปีก่อน จากการเดินเครื่องโรงกลั่นที่สูงขึ้น ช่วยพยุงอุปสงค์เอเชียในระยะสั้น แม้รายเดือนชะลอจากโควตาและเงื่อนไขการค้า
คลังน้ำมันสหรัฐและปฏิทินข้อมูล
ตัวเลขภาคเอกชนล่าสุดก่อนหน้า API ระบุคลังน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม 2.78 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดต้นตุลาคม ตลาดจับตารอบใหม่ในช่วงวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
EIA Weekly Petroleum Status Report สัปดาห์นี้ประกาศเลื่อนเป็น พฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม เวลา 12.00 และ 14.00 น. ET เนื่องจากวันหยุดของสหรัฐ ซึ่งมักทำให้ราคาผันผวนช่วงใกล้ประกาศ
ความเสี่ยงและตัวแปรที่ต้องติดตาม
ความคืบหน้าประเด็นการค้าโลก โดยเฉพาะสหรัฐกับจีน ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นและประมาณการดีมานด์ของ IEA ในช่วงครึ่งปีหลัง
นโยบายและท่าทีของ OPEC+ ต่อแผนเพิ่มกำลังผลิต และความสามารถของสมาชิกในการแตะโควตาจริง
การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ซึ่งมีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และต้นทุนพลังงานนำเข้าของประเทศเกิดใหม่
มุมมอง 1–3 สัปดาห์
ภาพรวมพื้นฐานยัง “ผ่อนคลายเล็กน้อย” ทางฝั่งอุปทาน จากการผลิตที่สูงของสหรัฐและการปรับมุมมองดุลตลาดของ IEA ขณะที่ฝั่งดีมานด์ได้แรงพยุงจากจีนแต่ยังเผชิญความไม่แน่นอนจากการค้าโลก หาก EIA รายงานการเพิ่มสต็อกต่อเนื่อง ราคามีแนวโน้มแกว่งในกรอบจำกัดพร้อมแรงกดดันฝั่งลงเป็นระยะ ส่วน Upside ในระยะสั้นขึ้นกับข่าวหยุดชะงักอุปทานเฉพาะหน้าและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศหลัก