
สรุปสั้น
เช้าวันนี้ราคาน้ำมันอ่อนต่อ โดย Brent ใกล้ 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ WTI ใกล้ 58.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของ IEA ที่ประเมินส่วนเกินซัพพลายในปี 2026 และบรรยากาศตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ขณะเดียวกันปัจจัยหนุนฝั่งดีมานด์คือการนำเข้าน้ำมันของจีนเดือนกันยายนที่ยังสูง และความเห็นฝั่ง OPEC ที่ย้ำกรอบอุปสงค์ระยะยาวต้องการการลงทุนต่อเนื่อง
ภาพรวมราคาและบรรยากาศวันนี้
ระหว่างการซื้อขายเอเชียถึงยุโรป ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดรอบหลายเดือน โดย Brent ประมาณ 62.2 ดอลลาร์ และ WTI ประมาณ 58.5 ดอลลาร์ ความกังวลหลักคือแนวโน้มส่วนเกินซัพพลายปีหน้า และสัญญาณตึงเครียดทางการค้าสหรัฐกับจีนที่อาจกดอุปสงค์โลกในระยะสั้นฝั่งซัพพลาย
ฝั่งซัพพลาย
มุมมอง IEA รายงานล่าสุดเตือนว่าตลาดอาจเผชิญส่วนเกินซัพพลายเฉลี่ยระดับล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงปี 2026 ซึ่งกดดันราคาตั้งแต่ปลายไตรมาสสามต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้
มุมมอง OPEC และ OPEC+ รายงานเดือนตุลาคมของ OPEC ชี้ว่าหากกลุ่มยังผลิตใกล้ระดับเดือนกันยายน ปี 2026 อาจเหลือดุลเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่เคยมองขาดดุลมากกว่า สะท้อนภาพสมดุลที่ “ตึงน้อยลง” กว่าที่เคยมองไว้ ขณะที่เลขาธิการ OPEC ย้ำว่าความต้องการพลังงานระยะยาวยังเพิ่มและอุตสาหกรรมน้ำมันก๊าซต้องการการลงทุนต่อเนื่อง
ฝั่งดีมานด์
จีน นำเข้าน้ำมันดิบเดือนกันยายนเฉลี่ยราว 11.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบปีก่อน ช่วยพยุงมุมมองอุปสงค์เอเชีย แม้บรรยากาศการค้าสหรัฐกับจีนจะกดดันความเชื่อมั่นโดยรวม
ปัจจัยภายนอกอื่น ความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐกับจีนยังเป็นตัวถ่วงเสี่ยงต่อกิจกรรมเศรษฐกิจโลกและการใช้น้ำมันในระยะสั้น ตลาดจึงตอบสนองเชิงป้องกันต่อข่าวเชิงลบในสัปดาห์นี้
คลังน้ำมันสหรัฐและปฏิทินสัปดาห์นี้
ตัวเลขภาคเอกชนรอบล่าสุดจาก API ชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.78 ล้านบาร์เรล เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงลบต่อราคา หากแนวโน้มเพิ่มสต็อกยืดเยื้อ
EIA Weekly Petroleum Status Report สัปดาห์นี้ เลื่อนประกาศเป็นวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม ตามเวลา ET เนื่องจากสัปดาห์มีวันหยุดของสหรัฐ นักเทรดควรระวังความผันผวนช่วงใกล้เวลาเผยแพร่ข้อมูล
มุมมอง 1–3 สัปดาห์
ภาพรวมพื้นฐานชี้ว่า สมดุลตลาดผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย จากฝั่งซัพพลาย ขณะที่ฝั่งดีมานด์ยังพึ่งจีนและเอเชียเป็นหลัก ความเสี่ยงคือหากตัวเลขสต็อกของสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และความตึงเครียดการค้าสหรัฐกับจีนไม่คลี่คลาย ราคามีแนวโน้มแกว่งในกรอบจำกัดและมีแรงกดดันฝั่งลงเป็นระยะ ด้านบวกยังคงอยู่ที่การหยุดชะงักอุปทานเฉพาะหน้า หรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่จากเศรษฐกิจหลัก